วันเสาร์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ข้อดีและเสียของอาหารเจ

การกินอาหารเจ "เสี่ยง" กระดูกอ่อนแอ    นักวิทยาศาสตร์ ออสซี่ เมืองจิงโจ้ นั้นได้ค้นพบการกินอาหารเจที่ อาจจะทำให้คนที่กินอาหารเจทุกวัน หรือทุกมื้ออาจจะเสี่ยงและทำให้กระดูกอ่อนแอและบางลง เนื่องจาก การกินอาหารเจ คือการทานแต่ผัก ผลไม้ ไม่มีการกินเนื้อสัตว์เลย ทำให้ผู้ที่กินเจนั้นมีกระดูกที่บางกว่าผู้ที่กินเนื้อสัตว์ถึง 5% แต่ก็ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก

การกินอาหารเจ เสี่ยงอย่างไร


วารสาร วิชาการ "โภชนาการบำบัดอเมริกัน" รายงานว่า นักวิทยาศาสตร์ออสเตรเลียกับเวียดนามได้ร่วมกันศึกษาหาความเกี่ยวพัน ของกระดูกกับอาหาร จากบุคคลต่าง ๆ 2,700 กว่าคน ได้ผลออกมาว่ากระดูกของผู้ที่กินแต่ผักและผลไม้จะบางกว่าของผู้ที่กินเนื้อ สัตว์ด้วยอยู่ร้อยละ 5

นายตัน เหงียน หัวหน้าคณะนักวิจัยกล่าวว่าปัญหาดังกล่าวจะเห็นได้ชัดกว่าเพื่อนในหมู่ผู้ ที่งดเว้นการกินเนื้อสัตว์โดยสิ้นเชิง จะมีเนื้อกระดูกบางกว่าเพื่อนที่กินเนื้อสัตว์ถึงร้อยละ 6 แต่สำหรับผู้ที่กินแต่ผักผลไม้ไม่กินเนื้อและอาหารทะเล แต่ยังกินไข่และนมเนยแล้วในทางปฏิบัติแล้วก็ยังคงมีกระดูกเช่นเดียวกับคนที่ กินเนื้อสัตว์ด้วย

เขาสรุปรายงานว่า "ผลการศึกษาส่อว่า ผู้ที่กินเจ โดยเฉพาะผู้ที่ปฏิบัติอย่างเคร่งครัดจะมีความแน่นของแร่ธาตุในกระดูกเบา บางกว่า" แต่เขาเสริมว่า "แต่ในทางวิชาการแล้วถือว่าเป็นความแตกต่างอย่างไม่สู้มีความสำคัญนัก"


มาถึง... ประโยชน์ของอาหารเจกันบ้างแล้วครับ
 สำหรับผู้ที่กินอาหารเจเป็นประจำนั้น จะได้รับประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อม นั่นคือคุณค่าของอาหารเจจะส่งผลให้ผู้กินได้รับประโยชน์ทั้งทางร่างกายและ ทางจิตใจ ประโยชน์ทางด้านร่างกายนั้น สรุปได้ดังนี้


1. ร่างกายขับถ่ายของเสียออกหมด ทำให้ไม่สารพิษตกค้างอยู่ภายใน สารอาหารที่มีคุณค่าในพืช ผักสด ผลไม้ช่วยทำให้การขับถ่ายและการย่อยเป็นปกติ

2. เมื่อทานเป็นประจำ โลหิตถูกฟอกให้สะอาดขึ้นเรื่อย ๆ เซลล์ของร่างกายเสื่อมช้าลงทำให้อายุยืน ผิวพรรณผ่องใสนัยต์ ตาแจ่มใส ไม่พร่ามัว ร่างกายแข็งแรง รู้สึกเบาสบาย ไม่อึดอัด สุขภาพดี

3. อวัยวะหลักภายในและอวัยวะประกอบทั้ง 5 แข็งแรง ทำงานได้เป็นปกติสมบูรณ์มีสมรรถ ภาพสูง (อวัยวะหลักภายในทั้ง 5 ได้แก่ หัวใจ ไต ม้าม ตับ ปอด อวัยวะประกอบทั้ง 5 ได้แก่ ลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่ กระเพาะปัสสาวะ กระเพาะอาหาร ถุงน้ำดี)

4. ร่างกายต้านทานต่อสารพิษได้สูงกว่าคนปกติธรรมดา สารพิษได้แก่ สารเคมี ยากำจัดศัตรูพืช ยาฆ่าแมลง สาร DDT ก๊าซพิษ ที่เกิดจากการเผาไหม้ในอุตสาหกรรม เครื่องจักรกล ฯลฯ สารอาหารในพืชผัก ช่วยให้เซลล์ต่าง ๆ ทนต่อการทำลายจากรังสีต่าง ๆ เช่น กัมมันตภาพรังสี ที่เกิดจากการทดลองระเบิดนิวเคลียร์ ในสงคราม)

5.เมื่อ กินเป็นประจำมักไม่เป็นโรครุนแรง เรื้อรัง เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง เส้นเลือดตีบ ไขมันอุดตันในเส้นเลือด โรคไต ไขข้ออักเสบ โรคเกาต์ โรคเบาหวานโรคที่เกี่ยวกับระบบ ขับถ่าย ระบบย่อยอาหาร และระบบทางเดินอาหาร เช่น โรคริดสีดวงทวาร มะเร็งในกระเพาะ และลำไส้ โรคกระเพราะอาหารไม่ย่อย

นอกจากจะก่อให้เกิดประโยชน์ทางด้านร่างกาย อาหารเจยังส่งผลที่ดีต่อสภาพจิตใจด้วย
1. ทำให้จิตใจสงบ เยือกเย็น สุขุม บังเกิดเมตตาจิตอย่างเต็มเปี่ยม
อารมณ์ไม่ฉุนเฉียวไม่โกรธง่าย

2. ไม่มุ่งร้ายอาฆาตพยาบาท

3. มีสติมั่นคงไม่หวั่นต่อเหตุการณ์ต่าง ๆ

4. มีความเจริญรุ่งเรืองในชีวิ

5. สิ่งศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงต่างสรรเสริญยินดี
อวยพรให้ไม่มีช่องทางที่วิญญาณต่ำทุกประเภทเข้าแอบแฝงหรือทำอันตรายใด ๆ ได้

การกินเจนั้นเป็นความเชื่อและความศรัทธาของมนุษย์แต่ละคนว่าควรจะต้อง ปฏิบัติตนอย่างไรในการดำรงชีวิตการกินอยู่และผลของการปฏิบัติจะส่งผลดีต่อตน เองอย่างไร แต่ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเชื่อและศรัทธาเหมือนกันหมด จะเชื่ออะไร เชื่ออย่างไร และปฏิบัติอย่างไรขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของเรา ที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดคือความเชื่อ ความศรัทธาและการปฏิบัติต่าง ๆ จะต้องไม่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนทั้งต่อตนองและต่อผู้อื่นด้วย
จุดประสงค์หลักของผู้กินเจ สามารถแบ่งออกเป็น 3 ประการดังนี้

1. กินเพื่อสุขภาพ
อาหารเจเป็นอาหารประเภทชีวิต เอกินติดต่อกันช่วงเวลาหนึ่งจะทำให้ร่างกายเกิดการปรับตัวให้อยู่ในสภาวะ สมดุลสามารถขับพิษของเสียต่าง ๆ ออกจากร่างกายได้ ปรับระบบไหลเวียนโลหิต ระบบทางเดินอาหารให้มีเสถียรภาพ ทั้งนี้ผู้ทานเจจะต้องทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่และดื่มน้ำให้เพียงพอ

2. กินด้วยจิตเมตตา
เนื่องจากอาหารที่เราทานอยู่ในชีวิตประจำวัน ประกอบด้วยเลือดเนื้อของสรรพสัตว์ ผู้มีจิตเมตตา มีคุณธรรมและมีจิตสำนึกอันดีงาม เห็นอกเห็นใจผู้อื่นย่อมไม่อาจทานเลือดเนื้อของสัตว์เหล่านั้น ซึ่งมีเลือดเนื้อ จิตใจ และที่สำคัญมีความรักตัวกลัวตายเช่นเดียวกับคนเรา

3. กินเพื่อเว้นกรรมผู้ที่เข้าใจย่อมตระหนักว่าการกินซึ่งอาศัยการฆ่า เพื่อเอาเลือดเนื้อของผู้อื่นมาเป็นของเรา เป็นการสร้างกรรมเกี่ยวกับการฆ่าโดยตรง แม้ว่าจะไม่ได้เป็นผู้ฆ่าเองก็ตาม การซื้อจากผู้อื่นก็เหมือนกับการจ้างฆ่า

บางท่านอาจจะเคยคิดหรือเคยได้ยินมาบ้างว่า กินแต่อาหารเจจะทำให้เป็นโรคขาดอาหาร แต่ข้อมูลทางการแพทย์กลับยืนยันว่าไม่ได้เป็นเช่นนั้น คนที่กินอาหารเนื้อหรือคนที่กินเจก็มีสิทธิ์เป็นโรคขาดอาหารได้เท่ากัน สาเหตุ สำคัญของโรคขาดอาหารในคนทั้ง 2 กลุ่ม ก็คือการกินอาหารที่ไม่ถูกหลัก บริโภคอาหารไม่ครบ 5 หมู่ ซึ่งได้แก่ คาร์โบไฮเดรต แป้งและน้ำตาล โปรตีน ไขมัน วิตามิน และเกลือแร่ เป็นเหตุให้ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ ไม่ครบถ้วนตามที่ตนชอบ โดยไม่คำนึงถึงคุณประโยชน์ที่จะได้จากการกินอาหารนั้น ๆ

คนกินเจรู้จักวิธีดัดแปลงแปรรูปธัญพืชในธรรมชาติให้ได้มาซึ่งโปรตีน เราจะพบเห็นผลิตภัณฑ์ที่แปรรูปจากเมล็ดถั่วเหลืองมากมายหลาย ชนิด เช่น น้ำนมถั่วเหลือง (น้ำเต้าหู้) เต้าหู้ขาว เต้าหู้เหลือง เต้าเจี๊ยว น้ำมันถั่วเหลือง ซีอิ้ว ฟองเต้าหู้ ฯลฯ ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ล้วนเป็นแหล่งโปรตีนอันอุดมและมีคุณค่าสูงยิ่ง

ที่สำคัญมีผลวิจัยออกมาแล้วว่า แหล่งโปรตีนที่มาจากพืชมีมากกว่าเนื้อสัตว์อีกด้วย !!!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น