วันจันทร์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2553

กระเพาะปัสสาวะอักเสบ โรคที่สาวๆ มักมองข้าม



    ด้วย ไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวันที่เร่งรีบ บวกกับการเดินทางไปทำงานที่ต้องผจญกับปัญหาการจราจรที่แสนจะติดขัด บ่อยครั้งจึงทำให้สาวๆ หลายคนที่ปวดชิ้งฉ่องขึ้นมากลางทาง ต้องทนกลั้นปัสสาวะไปโดยปริยาย หรือสาวออฟฟิศบางคนก็อาจเป็นประเภททำงานติดลม นั่งรากงอกจนขี้เกียจลุกไปเข้าห้องน้ำก็มี บางรายที่ต้องออกไปทำงานนอกสถานที่ หรือแม้เดินช้อปตามห้างก็เกิดอาการรังเกียจห้องน้ำสาธารณะขึ้นมา จึงพาลกลั้นปัสสาวะมันซะอย่างงั้น

    ขอบอก เลยว่าเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง ให้รู้ไว้เลยว่าหากเรากลั้นปัสสาวะไว้นานๆ จะทำให้เชื้อโรคเดินทางเข้าไปถึงกระเพาะปัสสาวะได้ง่าย แล้วพอสะสมนานวันเข้าเรื่อยๆ ก็จะมีอาการปัสสาวะช้า ปัสสาวะขัด หรือกลั้นปัสสาวะโดยไม่รู้ตัว เมื่อเป็นติดต่อกันนานๆ จึงทำให้เกิดอาการอักเสบขึ้นมาได้ โรคนี้มักเกิดกับสาวๆ มากกว่าหนุ่มๆ เพราะสาวๆ อย่างเรามีท่อปัสสาวะที่สั้นกว่าหนุ่มๆ เขา ดังนั้น เชื้อแบคทีเรียบริเวณปากท่อปัสสาวะจึงเข้าไปถึงกระเพาะปัสสาวะได้ง่ายกว่าไง ล่ะ ส่วนสาเหตุอื่นๆ ที่อาจจะออกแนวเรตเอ็กซ์หน่อยก็คือ สาวไหนที่เคยมีเพศสัมพันธ์ หรือกำลังตั้งครรภ์อยู่ และผู้ป่วยโรคเบาหวาน จะมีโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคนี้ได้ง่าย ถ้าไม่แก้นิสัยชอบกลั้นปัสสาวะ หรือหากปล่อยไว้ไม่ได้รับการรักษา ก็จะเป็นเรื้อรังจนเชื้ออาจลุกลามจนทำให้ไตอักเสบไปโน่นเลย

อาการที่สังเกตได้ง่าย
-ปวดปัสสาวะบ่อยๆ พอไปเข้าห้องน้ำก็จะฉี่กะปริดกะปรอยเหมือนไม่สุดซะที
-ตอนฉี่เสร็จจะมีอาการแสบที่ท่อปัสสาวะและปวดบริเวณท้องน้อย
-ถ้าอาการรุนแรงอาจมีเลือดปนออกมากับปัสสาวะ หรืออาจมีเลือดสดๆ (ฟังดูน่ากลัวนะ) หยดออกมาหลังกลั้นปัสสาวะนานๆ
-หากเป็นในเด็กเล็กๆ อาจมีการปัสสาวะรดที่นอน มีไข้ เบื่ออาหาร และอาเจียน บางรายอาจมีอาการเจ็บนิดๆ บริเวณท้องน้อยด้วย


Tips on how to prevent
1. อย่ากลั้นปัสสาวะนานๆ สาว ๆ จำไว้เลยว่า ถ้าเรากลั้นปัสสาวะบ่อยๆ หรือนานๆ จะทำให้เกิดการติดเชื้อที่กระเพาะปัสสาวะได้โดยไม่รู้ตัว
2. หากสุดวิสัยเข้าห้องน้ำไม่ได้ และเริ่มรู้สึกว่าเกิดอาการฉี่ขัดๆ ขึ้นแล้ว ให้ดื่มน้ำมากๆ เพื่อช่วยขับเชื้อโรคให้ออกมาทางเหงื่อหรือปัสสาวะให้มากขึ้น
3. เมื่อเข้าห้องน้ำ ตอนทำความสะอาดให้เช็ดจากด้านหน้าไปด้านหลัง เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เชื้อโรคติดมาที่เราได้
4. ข้อนี้สำคัญ สาวๆ ควรดูแลจุดซ่อนเร้นให้สะอาดและแห้งอยู่เสมอ โดยพกกระดาษทิชชูติดตัวอยู่ตลอกเวลา
5. หากอยากปลดทุกข์ขึ้นมา ห้องน้ำสาธารณะก็เข้าได้ แต่ต้องกดน้ำทำความสะอาดก่อนสัก 1-2 ครั้งก็ได้จะได้มั่นใจว่าเราจะไม่ติดเชื้อโรคได้ยิ่งขึ้น
6. ออกกำลังกายเป็นประจำและพยายามพักผ่อนให้เพียงพอ ร่างกายจะได้แข็งแรงและมีภูมิต้านทานเขื้อโรคได้
7. เลือกใส่เสื้อผ้าที่โปร่งสบาย อย่าใส่กางเกงหรือยีนส์ที่รัดจนคับติ้วเกินไป เพราะจะทำให้ลำบากในการเข้าห้องน้ำแต่ละครั้ง
8. ดื่มน้ำวันมากๆ ยิ่งดื่มวันละ 1-2 ลิตรได้ยิ่งดี เพราะจะช่วยในเรื่องระบบไหลเวียนของเหลวและระบบขับถ่ายในร่างกายได้ดี

                                                         กลับหน้าแรก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น