โดย ทั่วไปแล้ว ผู้หญิงเรานี้ เวลาอยู่ในวัยที่มีประจำเดือนจะสังเกตได้ว่าจะมีคราบขาวติดอยู่ที่กางเกง ชั้นใน จะมากน้อยแค่ไหนหรือมีลักษณะเปลี่ยนแปลงอย่างไร
ก็ เป็นตามช่วงระยะของการมีประจำเดือน เนื่องจากช่องคลอดของผู้หญิงจะมีการทำความสะอาดตัวเองตามธรรมชาติอยู่แล้ว จึงถือว่าเป็นกระบวนการทำความสะอาดตัวเองตามปกติ
แต่ หากเมื่อไหร่ที่ตกขาวมีลักษณะเปลี่ยนแปลงไป เช่น มีสี มีกลิ่นผิดไปจากปกติ แล้วยิ่งถ้ามีอาการคันๆตรงน้องหนูอยู่ด้วย ก็สันนิษฐานได้เลยว่าคุณอาจโดนเจ้าเชื้อราเล่นงานเข้าแล้วก็ได้
เจ้าเชื้อแคนดิด้า แอลบิคันส์ (CANDIDA ALBICANS) จริงๆมันอาศัยอยู่ในร้างกายคนเราและชอบอาศัยอยู่ในช่องคลอดคุณผู้หญิง นั่นก็เพราะว่าเป็นที่ชื้นแฉะ และไม่มีภาวะความเป็นกรด เหมาะแก่การเจริญเติบโต ของเชื้อราเป็นที่สุด
ทั้ง สาวน้อย และสาวไม่น้อยก็เป็นได้ทั้งนั้นและที่สำคัญยังสามารถติดต่อกันได้จากการมี เพศสัมพันธ์อีกด้วย น้องๆสามารถสังเกตอากการเหล่านี้ได้ด้วยตนเองจาก อากการเริ่มแรกจะรู้สึกคันๆ บริเวณช่องคลอด หรือปากช่องคลอด ตกขาวมีสีและมีกลิ่นผิดปกติ สีขุ่นจับเป็นก้อน อวัยวะเพศภายนอกบวมแดง และรู้สึกเจ็บ และทรมานมากเมื่อร่วมเพศ
ป้องกันได้ด้วยตัวคุณเอง- ควรตากกางเกงชั้นใน ในบริเวณที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก และต้องให้โดนแสงด้วย เพราะเชื้อราพวกนี้จะตายด้วยความร้อน
- เพื่อสุขภาพอนามัยที่ดีควรสวมใส่กางเกงชั้นในที่ทำด้วยผ้าฝ้าย ที่จะช่วยระบายความอับชื้นได้ดีกว่ากางเกงชั้นในที่เป็นใยสังเคราะห์
- ไม่ควรใช้สบู่ หรือน้ำยาใดๆ ล้างช่องคลอด เพราะนั่นคือตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะความเป็นกรดของช่องคลอดลดลง ควรทำความสะอาดด้วยสบู่ธรรมดา และไม่ควรล้างภายในช่องคลอด
- ก่อนและหลังการร่วมเพศให้ปัสสาวะออกให้หมดกระเพาะ
- หลีกเลี่ยงการสวมกางเกงยีนส์คับๆ ซึ่งทำให้การระบายอากาศไม่ดี เกิดการอับชื้น
- สำหรับคนที่เริ่มอาการของโรคช่องคลอดติดเชื้อรา ควรเปลี่ยนชุดชั้นในใหม่ทั้งหมด หรือควรต้มน้ำเดือด10-15 นาที แล้วตากให้แห้งก่อนนำมาใช้งาน
- ถ้าเริ่มรู้สึกคันๆ ผิดปกติ ให้รับประทานโยเกิร์ตหรือนมเปรี้ยวให้มากๆ เข้าไว้ “แลคโตบาซิลัส” ช่วยคุณได้
- ควรรับประทานผักผลไม้ วิตามินจะช่วยเรื่องภูมิคุ้มกันโรค จะพบได้มากในพวกข้าวสาลี ขนมปัง ถั่ว ไข่ นม ผักใบเขียว ข้าวโอ๊ต เนื้อ และปลา
- หากมีอาการติดเชื้อแล้ว ควรงดอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตสูง เช่น แป้ง และขนมปังขาว และเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล รวมทั้งแอลกอฮอล์ด้วย
รู้ไว้ก่อนจะสาย- การใช้ยาลดกรด ยาแก้กระเพาะอาหารอักเสบ และการใช้ยาสเตรียรอยด์ นอกจากจะทำลายเชื้อแบคทีเรียชนิดอื่นแล้ว ยังทำลายเชื้อ lactobacilli ในช่องคลอดลดลง เกิดภาวะความเป็นกรดลดลง ก็จะทำให้เชื้อราเติบโตได้เร็วขึ้น
- ช่วงก่อนมีประจำเดือนเป็นช่วงที่มีแนวโน้วในการติดเชื้อราสูง เพราะมีภาวะความเป็นกรดต่ำ
- การร่วมเพศถ้ามีน้ำหล่อลื่นน้อยก็เกิดการติดเชื้อราได้ และน้ำอสุจิจากฝ่ายชายก็มีลักษณะเป็นด่างย่อมทำให้เกิดภาวะติดชื้อราได้ง่าย เช่นกัน
ในผู้ที่เป็นเบาหวาน สามารถติดเชื้อได้มากที่สุด เนื่องจากระดับน้ำตาลในเลือดและปัสสาวะสูง ส่งผลทำให้มีน้ำตาลใรสารหล่อลื่นช่องคลอดมากขึ้นด้วย
เห็น ไหมหล่ะค่ะ ว่าเจ้ากางเกงในชิ้นเล็กๆที่คุณมองข้ามเป็นแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อราศัตรูตัว ร้ายได้เป็นอย่างดี คุกคามคุณได้อย่างไม่คาดคิด อย่ามัวแต่อายและอย่าซื้อยามาใช้เอง เพราะหากชะล่าใจปล่อยทิ้งไว้อาการอาจรุนแรงถึงขั้นเป็นเชื้อราในมดลูกได้นะ คะ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน
ขอบคุณข้อความจากฟากฟ้าทะเลฝัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น